Nissan Leaf Plus ปี 2020 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นทำขับขี่นานขึ้น

Nissan Leaf Plus ปี 2020 เปิดตัวด้วยแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า 62 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่สามารถวิ่งได้ 226 ไมล์หรือประมาณ 363 กิโลเมตร ซึ่งยังตามหลังรถยนต์ระบบไฟฟ้าของผู้ผลิตรายอื่นอย่างเช่น Chevy Hyundai และ Kia

ได้เพิ่มพลังเป็น 214 แรงม้า แรงขับทั้งหมดจะส่งไปยังล้อหน้าทันที่ผ่านระบบเกียร์ความเร็วเดียว

สามารถวิ่งได้ประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาประมาณ 7 วินาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นมาตรฐานประมาณหนึ่งวินาที ซึ่งทำให้ไม่มีปัญหาในการเร่งความเร็วสำหรับการวิ่งบนทางด่วนหรือทางระหว่างเมือง อีกทั้งยังมีความรวดเร็วในการเร่งความเร็วจาก 60 เป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ มาพร้อมกับสายชาร์จมาตรฐานที่รองรับการชาร์จได้ทั้งกับเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนไฟฟ้าโดยตรง

หรือจะชาร์จกับไฟฟ้าภายในบ้านก็ได้ ดังนั้นเจ้าของรถยนต์ สามารถเสียบปลั๊กไฟขนาด 240 โวลต์ สำหรับการชาร์จจากเต้าเสียบในเครัวเรือนทั่วไปได้ เพื่อบรรจุไฟฟ้าให้พร้อมสำหรับการเดินทาง แทนที่การเสียเงินไปกับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้กับไฟบ้าน

มีระบบ Infotainment Quarterbacking ที่เป็นระบบ NissanConnect มีหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว สามารถตั้งค่าเสียง Bose ของวิทยุดาวเทียมบลูทูธ ติดต่อผ่านฮอตสปอต Wi-Fi Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งได้นำระบบนำทางบนเครื่องบินมาใช้งาน

เพื่อช่วยคำนวณเส้นทางและระยะเวลาในการเดินทางอีกด้วย สำหรับเทคโนโลยีทางด้านความปลอดภัยแบบแอคทีฟลีฟทุกรุ่นจะมาพร้อมกับระบบเตีอนการชนไปข้างหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

การตรวจสอบจุดบอด การเตือนการออกนอกเลน และการแจ้งเตือนการข้ามช่องจราจรด้านหลังที่มาพร้อมกับเบรกอัตโนมัติด้านหลัง อีกทั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ ProPilot ของ นั้นทำงานโดยใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ และยังมีระบบช่วยรักษาช่องทางจราจรในการขับขี่อัตโนมัติ

ซึ่งเป็นแบบแฮนด์บนล้อที่สามารถทำงานได้ดีในการจราจรบนท้องถนนเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบ e-pedal ที่จะให้การเบรกในแต่ละมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทำให้ Nissan Leaf Plus หยุดนิ่งได้สมบูรณ์

ถือได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดประหยัด และมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อีกตัวเลือกหนึ่ง

หาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่ รู้เรื่องรถ หรือ บทความ