“เสียงดังของรถยนต์” ที่เราใช้ มารู้ความหมาย ว่ากำลังมีปัญหาอะไร

เสียงดังของรถยนต์

   รถยนต์ยานพาหนะที่ช่วยให้เราเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เมื่อใช้ไประยะเวลานาน ๆ ย่อมที่จะมีการเสื่อมสภาพ ปัญหาของรถยนต์ก็มีมากมาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเสียงดังภายในรถ มักจะเกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ เสียงดังเหล่านี้เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นตอนติดเครื่องยนต์ เปิดไฟเลี้ยว หรือแม้แต่ตอนเบรก ก็เกิด เสียงดังของรถยนต์ ที่เราใช้ จนสร้างความรำคาญให้แก่ ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร

เสียงดังของรถยนต์

   สำหรับเสียงดังต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในรถยนต์ของเรา มันกำลังส่งสัญญาณเตือน ว่ารถกำลังมีปัญหา แต่ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ อาจจะไม่รู้ความหมายของเสียงดังเหล่านั้น วันนี้เราก็เลยจะมาบอกความหมายของเสียงดังในรถการดูแลรถ ให้ผู้ขับขี่ได้รู้ เพื่อที่จะได้รีบนำรถไปซ่อมให้ตรงจุดที่ต้องแก้ไข

เสียงดังของรถยนต์

“เสียงดังของรถยนต์” ที่เราใช้ กำลังบอกอะไรเรา

  1. เสียงดังที่เกิดจากเราสตาร์ทรถ เมื่อเราเริ่มทำการสตาร์ทรถแล้วเกิดเสียงดังเหมือนกับเสียงหนูตัวเล็กกำลังงร้อง โดยเสียงนี้จะดังมาจากเครื่องยนต์ พอผ่านไปประมาณ 5 นาที เสียงก็จะเงียบหายไปเอง บางครั้งที่เรากำลังขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเสียงมันก็กลับดังขึ้นมาอีก อาการของเสียงแบบนี้ มันกำลังบ่งบอกให้เราเช็คสายพานของรถยนต์โดยด้วย มีสิทธิที่สายพานอาจจะหลวม หรือหย่อนยาน วิธีการแก้ไขให้เราบอกช่างทำการปรับแต่งสายพานให้ตึงใหม่
  2. เสียงดังในกรณีที่เราเร่งความเร็ว เสียงดังที่เราจะได้ยินมันจะเป็นเสียงดังอู้ ๆ มาจากตัวเครื่อง พร้อมกับมีแรงสั่นแบบแปลก ๆ เราจะสัมผัสถึงแรงสั่นนั้นได้เลย อาการแบบนี้กำลังบ่งบอกว่า ยางที่รองรับตัวเครื่องนั้น ได้เสื่อมสภาพลงแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางกันสั่นของตัวเครื่องใหม่ สำหรับยางในการรองรับแรงสั่นของตัวเครื่อง จะมี 2 แบบ ได้แก่ แบบ 3 ตัว และแบบ 4 ตัว
  3. เสียงดังเวลาที่เราเหยียบเบรก มันจะดังแบบแสบแก้วหูมาก ๆ เหมือนกับเหล็กเสียดสีกัน อาการเสียงดังแบบนี้ มันกำลังบอกเราว่า ผ้าเบรกนั้นกำลังใกล้จะหมดแล้ส เมื่อผ้าเบรกมันใกล้จะหมด เวลาเราเบรกจะกลายเป็นเหล็กเสียดสีกันเอง