รีวิวจริง Mini Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากค่ายมินิ บอกได้คำเดียวว่า…

Mini cooper SE 1

Mini Cooper SE หลายท่านคงคุ้นเคยกันดีกับมินิ คูเปอร์คันเล็กกะทัดรัดจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี2019ที่ผ่านมานั้น ทางค่ายได้ส่ง Mini Cooper SE รถEV หรือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานงานไฟฟ้าล้วน100%คันแรก ลงตลาดอย่างเป็นทางการ ซึ่งเปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของเอเชีย แปซิฟิกและมอบโควตามาทั้งหมดเพียง 60 คันสำหรับประเทศเรา แน่นอนจำหน่ายหมดไปเรียบร้อย แต่ทว่าด้วยฟังก์ชั่นต่างๆดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อเป็นของเล่นเศรษฐีเสียมากกว่าใช้งานจริงจัง

Mini cooper SE 2

                ก่อนอื่นมาดูกันว่าเจ้าตัวนี้ให้อะไรมาบ้างคร่าวๆ อันดับแรกขุมพลังไฟฟ้าของเขานั้นเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง สามารถส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ ต่อ 184 แรงม้า และส่งแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 7.3 วินาที มาพร้อม4โหมดการขับเรียงจากน้อยไปมากคือ Green Plus , Green , Mid และ Sport ชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ 217 กิโลเมตร ราคาค่าตัวอยู่ที่ 2.29 ล้านบาท

                ส่วนต่อมาในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ยังคงเค้าเดิมของความเป็นมินิเช่นเคยด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นชัดเจน สามประตูสุดคลาสสิก กระจังหน้าไร้รูระบายอากาศ พร้อมแถบแนวนอนสีเหลืองเป็นเสมือนตัวแทนของรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าคาดด้านหน้ามีอักษรEVที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีแสดงไว้ รวมทั้งกระจกมองข้างเองก็สีเหลืองแบบเดียวกัน และนี่คือจุดแตกต่างระหว่างมินิธรรมดากับมินิไฟฟ้า หลังคาดำเงา เสาอากาสแบบออริจินอล ความเท่ขีดสุดของเจ้าSEอยู่ที่ล้ออัลลอย 17 นิ้วลายอิเล็คทริค โคโรน่ากับไฟท้ายลายธงชาติอังกฤษ ไฟหน้า-หลังLEDเต็มระบบ และที่สำคัญไม่มีท่อไอเสีย

                ด้านในคงไม่ต้องอธิบายเยอะ ไม่ต่างจากMiniทั่วไปนัก ส่วนของเกียร์นั้นให้มาแบบไฟฟ้า แต่จุดเด่นของเขาเลยคือ หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล100% ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Mini Cooper อีกแล้ว

Mini cooper SE 3

                เรื่องความรู้สึกในการขับขี่นั้นไม่ต่างจากมินิทั่วไปมาก ด้วยความที่วิ่งได้217กิโลเมตรนั้นต้องบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงของเราล้วนๆ อาจจะถึงหรือไม่ถึงก็ได้  สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับรถไฟฟ้าอาจมีตะกุกตะกักด้วยคันเร่งนั้นสามารถหน่วงและผ่อนแทนเบรกได้ พวงมาลัยแม่นยำและคมดีมาก ช่วงล่างยังคงกระด้างตามสไตล์ของเขา รวมๆแล้วขับสนุกใช้ได้ ข้อเสียเปรียบคือเรื่องการชาร์จไฟและระยะทาง ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานจริงจังแน่นอน บอกได้คำเดียวว่าเหมาะกับเศรษฐีซื้อสะสมเหมือนโมเด็ลของเล่นมากกว่า 

หาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่ รู้เรื่องรถ หรือ บทความ

ข่าวสารเกียวกับรถอื่นๆ อีซูซุจัดเต็ม! เปิดตัวรถใหม่ล่าสุด “ออลนิว อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์”